ติดต่อ Email veerapol@blpower.co.th, plecpn@blpower.co.th, thanij@blpower.co.th
Bridgestone และ Lightyear เยียร์ ผนึกกำลังพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ที่สามารถวิ่งระยะทางไกลได้เป็นรุ่นแรกของโลก โดย Bridgestone นำเทคโนโลยี ENLITEN ที่น้ำหนักเบาและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มาใช้กับยาง Turanza Eco ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ไลท์เยียร์ วัน (Lightyear One) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอย่างยอดเยี่ยม ด้วยการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่, ช่วยเพิ่มระยะวิ่งของรถได้มากยิ่งขึ้น และยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาล่าสุดของ Bridgestone ที่ยังเดินหน้าพัฒนาด้านโซลูชันการเดินทางขั้นสูงและความปลอดภัยอย่างยั่งยืนในการขับเคลื่อนยานยนต์
เทคโนโลยี ENLITEN ทำให้ยางมีความต้านทานในการหมุนต่ำ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ เป็นยางที่มีแรงเสียดทานต่ำกว่ายางรถทั่วไป โดยมีการลดการสิ้นเปลืองวัตถุดิบในการผลิต, เพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยการยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่, เพิ่มระยะวิ่งให้รถได้มากยิ่งขึ้น และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การเป็นพันธมิตรร่วมกันระหว่าง Lightyear ไลท์เยียร์ และ Bridgestone มาจากความต้องการในการร่วมกันส่งเสริมความยั่งยืน และเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลกในรายการ Bridgestone World Solar Challenge รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ Lightyear one จะลงสนามทดสอบในไตรมาสที่ 2 ในปี 2564 และคาดการณ์ช่วงเวลาการเปิดตัวสู่ตลาดในแถบยุโรป ภายในปลายไตรมาสที่ 4
Bridgestone เผยถึงการเป็นพันธมิตรร่วมกับ Lightyear ผู้สร้างนวัตกรรมด้านการเดินทางจากประเทศเนเธอร์แลนด์ Bridgestone ออกแบบพัฒนายางรุ่นพิเศษ โดยเฉพาะสำหรับใส่ให้กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ Lightyear one ที่สามารถวิ่งระยะทางไกลได้เป็นรุ่นแรกของโลก ซึ่งมีแผนจะเปิดตัวสู่ตลาดในประเทศแถบยุโรปภายในสิ้นปีนี้ การวิจัยล่าสุด พบว่า 50 % ของผู้ขับขี่รถยนต์ในยุโรปมีความคิดที่จะซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) และยังมีอีกกว่า 37 % ที่ยังกังวลว่าจะซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าดีหรือไม่ เนื่องจากมีข้อกังวลเกี่ยวกับประสิทธิภาพและข้อจำกัดของการวิ่งของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ Lightyear one ตอบโจทย์ข้อกังวลเหล่านี้ ด้วยการรองรับการขับขี่เป็นระยะทางถึง 725 กม. ต่อแบตเตอรี่หนึ่งรอบชาร์จ คิดเป็นประสิทธิภาพพลังงานที่มากกว่าสูงสุดถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าของแบรนด์อื่น ที่จำหน่ายในตลาดปัจจุบัน รถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์รุ่นนี้ได้รับการชาร์จกระแสไฟฟ้าโดยตรงจากแสงอาทิตย์ผ่านแผงโซลาร์ขนาดใหญ่ซึ่งติดตั้งอยู่บนหลังคารถ, ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และยังใช้การชาร์จน้อยลงในขณะที่เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้สูงสุด
เพื่อให้ตอบโจทย์สมรรถนะที่เหนือชั้นดังกล่าว Lightyear พัฒนาเทคโนโลยีปัจจุบันให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการออกแบบรถยนต์ที่มีสัมประสิทธิ์อากาศพลศาสตร์ที่ดีที่สุดในบรรดารถที่ผลิตจริงในปัจจุบัน โดยใช้ประโยชน์หลายประการจากการออกแบบรถยนต์ในหลากหลายด้าน และเพื่อสนับสนุนสมรรถนะที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพรถยนต์ให้ดียิ่งขึ้น Lightyear เลือกยางที่ช่วยให้มีความต้านทานในการหมุนต่ำและมีน้ำหนักน้อยลง เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่, ช่วยเพิ่มระยะวิ่งให้ได้มากยิ่งขึ้น และยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม Bridgestone พัฒนายาง Turanza Eco ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ ด้วยการนำเทคโนโลยี ENLITEN ที่เป็นนวัตกรรมใหม่และมีน้ำหนักเบาร่วมกับเทคโนโลยี ยางรถยนต์ประหยัดเชื้อเพลิง หรือ ologic ที่นำมาใช้งานได้จริงก่อนใคร เทคโนโลยีเหล่านี้ ช่วยลดการสิ้นเปลืองวัตถุดิบลงในตลอดทุกขั้นตอนของกระบวนการผลิต ลดความต้านในการหมุน ผ่านดอกยางแบบใหม่, เส้นผ่านศูนย์กลางยางรถยนต์ที่ใหญ่ขึ้น, แรงดันลมยางสูง และยังออกแบบยางให้มีน้ำหนักเบาลง
ความต้านการหมุนของยางที่ต่ำมาก ช่วยทำให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ Lightyear one ใช้ประโยชน์จากแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักเบาได้อีกด้วย ซึ่งส่งผลให้ยาง Turanza Eco ซึ่งได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ จะช่วยเพิ่มระยะวิ่งให้รถได้มากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับยางรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นอื่นของ Bridgestone เทียบเท่ากับการลดน้ำหนักได้ถึง 90 กก. และนอกจากจะช่วยให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์วิ่งได้ไกลขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้งแล้ว การกระจายตัวของซิลิกาในยางรถยนต์ยังได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยีการผสมแบบใหม่ ซึ่งสามารถทำให้ยางมีน้ำหนักเบาลงโดยรวมถึง 3.6 กก. (ประมาณ 10 %) ของน้ำหนักยางต่อรถหนึ่งคัน โดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพ, อายุยาง และการยึดเกาะถนนลดลง
การผลิตยาง Turanza Eco ครั้งแรกนั้น ยางจะถูกทำเครื่องหมาย Bridgestone EV ใหม่บนแก้มยาง เครื่องหมาย Bridgestone EV ใช้กับยางที่ออกแบบโดยเฉพาะสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อเป็นการบ่งชี้ว่ายางได้ผ่านการทดสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนและได้รับการอนุมัติจากผู้ผลิตรถยนต์แล้ว ดังนั้น ยางเหล่านี้จึงสามารถรองรับคุณสมบัติเด่นที่ไม่เหมือนใครของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและผ่านตามข้อกำหนดของผู้ผลิตรถยนต์ในด้านอายุการใช้งานของแบตเตอรี่, การควบคุมการขับขี่ และอายุการใช้งานของยาง Turanza Eco และเทคโนโลยี ENLITEN ร่วมกับเทคโนโลยียางประหยัดเชื้อเพลิงหรือ ologic แบรนด์ Bridgestone ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการพัฒนายางแบบ Virtual Tyre ช่วยให้สร้างแบบจำลองสมรรถนะของยางที่แม่นยำได้โดยไม่ต้องผลิตยางจริงและย่นเวลาการทดสอบการใช้ยางจริงได้สูงสุดถึง 40,000 กม. ลดเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการทดสอบการใช้ยางจริงลงได้สูงสุดถึง 50% อีกด้วย
แนวคิดการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ Lightyear one มาจากการแข่งขันรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลกระดับโลกในรายการ Bridgestone World Solar Challenge ซึ่งเป็นการแข่งขันรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ในเขตชนบทของประเทศออสเตรเลีย ระยะทางรวม 3,000 กม. ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีและรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยแนวคิดดังกล่าว Bridgestone ทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเฟิน (Eindhoven Technical University) และบุคลากรผู้สนับสนุนของไลท์เยียร์ มานานกว่า 8 ปี กล่าวได้ว่าทีม “Solar Team Eindhoven” เป็นจุดเริ่มต้นของการก่อตั้ง Lightyear ซึ่งเป็นทีมที่ชนะได้รับ Cruiser Cup จากการแข่งขันรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลกในรายการ Bridgestone World Solar Challenge ถึงสี่ปีซ้อนตั้งแต่ปี 2559-2562
Emilio Tiberio, COO และ CTO ของ บริดจสโตน EMIA (BSEMIA) ให้ความเห็นว่า: “Lightyear มีแนวคิดที่ดีในด้านการเดินทางที่ยั่งยืนนับตั้งแต่ที่เราได้เห็นทีมของพวกเขาเข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลกในรายการ Bridgestone World Solar Challenge และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ Lightyear one โดย Bridgestone มุ่งในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงให้ได้ 50% ภายในปี 2573 ใช้วัสดุที่ยั่งยืน 100% ภายในปี 2593 ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นพื้นฐานที่นำไปสู่ผลสำเร็จในเป้าหมายดังกล่าว” Lex Hoefsloot, CEO ของไลท์เยียร์ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ Bridgestone ซึ่งองค์กรของเรามีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการพัฒนาด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนเพื่ออนาคต โลกของเรากำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายอย่างที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าของทั้งสองบริษัท จึงทำให้สามารถทำงานร่วมกันเพื่อมุ่งมั่นและสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนของโลกต่อไป”